เบนซ์ W207 E Coupe ฟอกเกียร์ เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ เต็มระบบ
รายละเอียดตัวรถ
| รถยนต์ | Mercedes Benz |
| รุ่น | E Coupe W207 250 CGI |
| เครื่องยนต์ | EVO M271 1.8 Turbo |
| ระบบส่งกำลัง | AT 5 Speed 722.6 |
| สเป็คน้ำมันเกียร์ | ATF 236.12 |
| น้ำมันเกียร์ที่ใช้ | Motul Multi ATF รองรับมาตรฐาน 236.12 |
| เลขไมล์ที่เข้าฟอกเกียร์ | 124,875 กิโลเมตร |
เบนซ์ w207 E Coupe 250 CGI นั้น เมื่อครบ 100,000 กิโลเมตรแล้ว ก็เลยจับมาเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ทั้งระบบ พร้อมฟอกเกียร์ เพื่อความสะอาดยิ่งขึ้นไปด้วย เพราะว่าปกติแล้วเบนซ์ เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ได้จำนวนค่อนข้างมากอยู่แล้ว ฉะนั้นถ้าฟอกด้วยก็จะชำระภายในได้สะอาดยิ่งขึ้น และ อย่าลืมว่าเลขไมล์ทะลุแสนไปแล้วสิ่งที่ควรจะเปลี่ยนอีกอย่างนึงคือ กรองเกียร์ และ ยางอ่างน้ำมันเกียร์ เพราะถ้าไม่เคยเปลียนเนี่ย คงดำปี๋ ไม่ต้องสืบแน่ๆ ประสิทธิภาพการกรองคงไม่เหลือแล้วหละ
รูปบน จะเห็นหลอดด้านซ้ายมือ มันคือ น้ำมันเกียร์ ที่อยู่ในระบบเกียร์ตอนนี้ มันดำจนไม่เห็นเหล็กที่เป็นแกนหลอดเลย ความดำ ไม่ได้เกิดจากตะกอนอย่างเดียว สามารถเกิดได้จากการเสื่อมสภาพของน้ำมันเกียร์ ทำให้สีและความใสเปลี่ยนไปด้วยครับ ฉะนั้นการฟอกเกียร์ไม่สามารถทำน้ำมันเกียร์เก่าให้ใสเหมือน น้ำมันเกียร์ใหม่ได้แต่อย่างใด
การฟอกเกียร์ นั้น เป็นการกรองสิ่งสกปรกที่แขวนลอย เป็นอนุภาค ในน้ำมันเกียร์เก่าออกไปด้วยไส้กรองเหมือนเครื่องกรองน้ำ แต่สีของน้ำมันเกียร์และความโปร่งแสงนั้นไม่ใช่สิ่งที่ขั้นตอนการฟอกเกียร์จะทำได้ เพราะอย่างที่บอก น้ำมันเกียร์มันดำ เพราะเกิดจากการเสื่อมสภาพของมันด้วย เป็นการเสื่อมสภาพทางเคมี ฉะนั้นการฟอกเกียร์ เป็นการกรองสิ่งสกปรกทางกายภาพออกจากน้ำมันเกียร์ นะครับ ต้องเข้าใจตรงจุดๆนี้กันด้วย หลายๆอู่ก็ไม่ได้อธิบาย หรือ ทำความเข้าใจกับลูกค้าก่อน ก็จะเกิดความฉงนสงสัยในใจลูกค้า ว่าทำไมตอนฟอกไม่เห็นมันจะใสขึ้นเลยวะ ซึ่งมันเคยเกิดขึ้นกับผมมาแล้วตอนผมเอารถไปฟอกเกียร์ที่ร้านๆนึงเช่นกัน พอมาทำเองก็ถึงบางอ้อ ว่าแท้จริงแล้วการฟอกเกียร์นั้น มันคืออะไร มันคือขั้นตอนไหน มันทำแล้วมีผลที่มองเห็นเป็นอย่างไร นั่นแหละครับ ไม่งั้นจะคาดหวังกันว่าตอนฟอกเกียร์แล้วต้องใสนั้น มันเป็นไปไม่ได้ !!!
รูปด้านบน จะเห็นความใสของน้ำมันเกียร์ ซึ่งเกิดขึ้นในขั้นตอนหลังการฟอกเกียร์ นั่นคือ ขั้นตอนที่เรียกว่า ฟรัชชิ่ง น้ำมันเกียร์ นะครับ เป็นการดันน้ำมันใหม่ๆ ใสๆ เข้าไปในเกียร์ด้วยเครื่อง ATF Exchanger (เครื่องฟอกนั่นแหละ) เพื่อแทนที่น้ำมันเก่า เหมือนฉีดน้ำจากสายยางไล่น้ำที่สกปรกเวลาเราล้างพื้นอ่ะ ดันเข้าไปแค่ไหนน้ำมันเกียร์เก่ามันก็จะออกอีกด้านนึงในปริมาณที่พอๆกัน ตอนนี้แหละครับอยากจะใสแค่ไหนก็ใส่น้ำมันเกียร์ใหม่กันเข้าไปตามกำลังทรัพย์ แต่ไม่ใช่ตามความเหมาะสม (เดี๋ยวค่อยว่ากันต่อว่าทำไม)
เบนซ์ E Coupe w207 คันนี้ ปี 2010 ตอนทำฟรัชชิ่งก็ปี 2020 ก็สิบปีพอดี น้ำมันเปลี่ยนตามระยะก็ยังเป็นอย่างที่เห็น ทีนี้น้ำมันเกียร์ที่ใช้ก็เป็นของ Motul Multi ATF ซึ่งมีสเป็คกำกับไว้เรียบร้อยว่ารองรับเบอร์น้ำมันเกียร์เดียวกับน้ำมันเกียร์ของ Benz เองเลย ต่างกันตรงที่ไม่ได้มี ตรารับรองจากเบนซ์เท่านั้น
ความต่างก็คือ ราคาของเบนซ์กับโมตุล ต่างกันเกือบครึ่ง อะถึงตรงนี้ก็ต้องมีคำถามอีกว่ามันต้องดีไม่เท่ากับของเบนซ์เองแน่ๆ จะบอกให้ว่าโมตุลก็ทำนะตัวที่มีตราประทับ แต่ราคาก็โดดไปตบบ่ากับน้ำมันเกียร์เบนซ์เลย แถมสเป็คที่รองรับดันเหมือนกันอีก ก็แล้วแต่จะเลือกนะ ความคุ้ม ความสบายใจของแต่ละคนไม่เท่ากัน
ตรารับรองมันได้มาได้ยังไง ก็คือ ทางโมตุลต้องส่งน้ำมันไปให้ทางเบนซ์ทดสอบ 2 ปี ก็จะได้ตรารับรองมา นั่นแหละคือที่มาของสัญลักณ์ดาวสามแฉก และราคาที่ต้องขยับขึ้นไป (แต่สำหรับผมมองว่าเหมือนกันนะ)
เวิ่นเว้อซะเยอะ สรุป หลังจากทำมาแล้ว เกียร์เปลี่ยนว่องไวขึ้น จังหวะเปลี่ยนมันไวอะ ใช้เวลาเปลี่ยนเกียร์เช่น จาก 1 ไป 2 สั้นลงเหมือนมี Quick-shift นั่นแหละ แต่ไม่ใช่ว่ารอบเครื่องยังไม่ถึงไหนแล้วเปลี่ยนเกียร์ให้ อันนั้นเรียกเกียร์พังนะ และอีกอย่างคือ รอยต่อระหว่างการเปลี่ยนเกียร์นั้นเนียนขึ้น บางคันเหมือน CVT เลย ผลลัพธ์ตรงนี้แต่ละคันต่างกันเพราะสภาพภายในเกียร์ต่างกันนะครับ จบ ห้วนๆแบบนี้แหละ สวัสดี
แถมหน่อย สำหรับผู้ที่สงสัย ซึ่งมีแน่ๆ ก็จิ้มลิงค์ด้านล่างได้เลยนะครับ
เกือบลืม ถ้าอยากจะเข้ามา ฟอกเกียร์ เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ ก็ คลิกที่ลิงค์ นะครับ มีที่อยู่เบอร์โทร ไลน์ แผนที่ พร้อมๆ