ทำไมต้อง เปลี่ยนน้ำมันเกียร์เต็มระบบ
คนรักรถ : เปลี่ยนน้ำมันเกียร์เต็มระบบ ไม่เคยได้ยินเลย
แต่เราก็เปลี่ยนตามระยะที่กำหนด
ช่างแม่ง : แต่รู้ไหมครับ ว่าจริงๆแล้ว นั่นเป็นการ เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ แค่ บางส่วน เท่านั้น
คนรักรถ : อ้าว ก็ที่ศูนย์บริการก็ไม่เห็นแจ้งอะไรนี่ ไปทุกครั้งก็เปลี่ยนเท่านี้ก็น่าจะตามสเป็คแล้ว
ช่างแม่ง : ลองเปิดคู่มือรถดูครับ ส่วนใหญ่ (ใช้คำว่า ส่วนใหญ่ เพราะบางรุ่นระบุแค่ระดับเปลี่ยนถ่ายเท่านั้น) จะมีระบุปริมาณ น้ำมันเกียร์ รวมทั้งหมดไว้ด้วย ว่า น้ำมันเกียร์ ในระบบมีปริมาณเท่าไหร่ บางรุ่น 6 ลิตรกว่า บางรุ่น 9.7 ลิตร เลยทีเดียว ดูจากรูปที่ยกตัวอย่างบางส่วน ด้านล่าง ได้เลยครับ
ซึ่งปริมาณ น้ำมันเกียร์ทั้งหมดในระบบนั้น มันแตกต่างจากที่เรา เปลี่ยนถ่าย ทุกครั้งอย่างสิ้นเชิง
รูปบน ปาเจโร่ สปอร์ท และ ไททัน มีน้ำมันเกียร์เต็มระบบถึง 9.7 -10.9 ลิตร แตกต่างจากการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ตามปกติซึ่งก็ประมาณ 4 ลิตร แค่นั้น
รูปบน นิสสันเทียน่า L33 เครื่อง 2.5 CVT มีน้ำมันเกียร์เต็มระบบถึง 7.4 ลิตร แต่ปกติเปลี่ยนเท่าไหร่ครับ ก็ ประมาณ 4 ลิตร เช่นกัน
รูปบน เชฟโรเลต แคปติว่า มีน้ำมันเกียร์เต็มระบบถึง 8.7 ลิตร
ช่างแม่ง : เคยเปลี่ยนกันขนาดนี้ไหม คำตอบคือไม่มีใครเคยหรอกครับ
คนรักรถ : ใช่ๆ เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ บ้าบอ อะไร 8 ลิตร เกิดมาไม่เคยพบเจอ
รูปบน วอลโว่ V70 ก็ไม่น้อยหน้า น้ำมันเกียร์ในระบบ 7.5 ลิตร
ช่างแม่ง : ยังมีให้ดูอีกหน่อยครับ
รูปบน อีซูซุ ก็เบาๆ มีน้ำมันเกียร์ในระบบ 8.6 ลิตร
รูปบน ฮุนได H1 ใช้ น้ำมันเกียร์ในระบบถึง 10 ลิตร
คนรักรถ : แต่ทุกครั้งที่เรา เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ ก็ไม่เคยเกิน 4 ลิตร
เท่ากับว่ายังเปลี่ยนไม่ถึงครึ่งนึงของความจุ น้ำมันเกียร์ในระบบเลย
แบบนี้ก็เหมือนกับ เรา เติมน้ำมันเกียร์ใหม่ ผสมกับ น้ำมันเกียร์เก่าในระบบ นะสิ
ช่างแม่ง : ใช่ครับ เพราะด้วยข้อจำกัดใน การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ แบบทั่วๆไป จึงทำได้แค่นั้น
ช่างแม่ง : น้ำมันเกียร์ ใหม่ ที่เปลี่ยนเข้าไป ผสมกับ น้ำมันเกียร์ เก่า ที่เหลืออยู่เยอะ ผลก็คือ สิ่งสกปรกก็ยังวนเวียนอยู่ใน ระบบเกียร์อัตโนมัติ เกินครึ่ง
และน้ำมันเกียร์ใหม่ ที่ผสม กับ น้ำมันเกียร์เก่า ที่เสื่อมสภาพ ทำให้ประสิทธิภาพของ น้ำมันเกียร์ ใหม่ ลดลงไปด้วย
แต่ได้ในเรื่องลดความสกปรกไปบางส่วน และประสิทธิภาพดีขึ้น แต่ไม่เต็มที่
คนรักรถ : ก็หมายความว่า ประสิทธิภาพของ น้ำมันเกียร์ใหม่ ที่เราเติมเข้าไป ก็โดนเจือจาง จาก น้ำมันเกียร์เก่า ที่อยู่ในเกียร์อัตโนมัติ นะซิ
คงจะเจือจางไปเยอะ เพราะเติมเข้าไปไม่ถึงครึ่ง ประสิทธิภาพต้องหายไปพอสมควร
ช่างแม่ง : ใช่ครับ เหมือนใช้ น้ำมันเกียร์ใหม่ ประสิทธิภาพเหลือแค่ 1 ใน 3 ของที่มันควรจะเป็น
คนรักรถ : แต่ถึงจะแค่นั้น มันก็รู้สึกได้นะ ว่าเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ใหม่ มา
ช่างแม่ง : เห็นด้วยครับ แต่ลองคิดดูว่าถ้าเป็น น้ำมันเกียร์ใหม่ ทั้งหมด จะดีขึ้นขนาดไหน
น้ำมันเกียร์ ที่เราเปลี่ยนถ่ายกันนั้น มันแค่ น้ำมันเกียร์ ที่อยู่ในอ่างด้านล่างเท่านั้น ที่เหลือ มันอยู่ในระบบเกียร์
ช่างแม่ง : มันก็เลยไม่สะอาดใสเหมือนเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง ที่ถ่ายออกมาได้เกือบหมด
และน้ำมันเกียร์ส่วนใหญ่ไปอยู่ใน ทอร์คคอนเวอร์เตอร์
รูปด้านบน คือ ทอร์คคอนเวอร์เตอร์
คนรักรถ : มันทำหน้าที่อะไรถึงได้มี น้ำมันเกียร์ ไปอยู่เยอะที่สุด
ช่างแม่ง : ทอร์คคอนเวอร์เตอร์ ดูภายนอกก็แค่ลูกกลมๆ เหมือนฟักทองแต่ภายในมีกลไกต่างๆ ซึ่งต้องทำงานด้วย น้ำมันเกียร์ ล้วนๆ
หน้าที่หลัก คือ ถ่ายทอดกำลังของเครื่องยนต์ทั้งหมด ไปสู่ ระบบเกียร์
และสื่อกลางในการถ่ายทอดกำลังเกือบทั้งหมด คือ น้ำมันเกียร์ อีกเช่นเคย
คนรักรถ : ไม่เคยรู้มาก่อนเลย ทำไมศูนย์บริการไม่แจ้งละ
ช่างแม่ง : คือ ปกติถ้าจะเปลี่ยนทั้งหมด คือแม่งยุ่งฉิบหย ครับคุณ คือต้องรื้อเกียร์ แบบรูปด้านล่างนี้เลย รื้อออกมา
กลไกเพียบ ถ้ารื้อแบบนี้ ทำโอเวอร์ฮอน เปลี่ยนอะไหล่ให้หมดเลยจะดีกว่า แต่เตรียมตังค์ไว้ หลักหมื่น ถึง แตะแสน สำหรับเกียร์สายยุโรป
สรุปง่ายๆ คือ มันทำไม่ได้ที่จะ เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ ทั้งหมดด้วยวิธีการแบบเดิม
ทางศูนย์บริการก็ทำดีที่สุดแล้ว
คนรักรถ : แบบนี้จะทำได้ยังไงละ ดูยุ่งยากจัง จะเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ทั้งหมดเนี่ย
ช่างแม่ง : เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ แบบเดิม มันก็ทำได้เพียงเท่านี้
ถือว่าดีที่สุดที่ทำได้ในตอนนั้นแล้วครับ
ไม่ต้องกังวลไปครับ ที่ผ่านมาคุณ คนรักรถ ทำดีที่สุดแล้ว
คนรักรถ : ยังงงง !!! ยังไม่ได้จะตายยย 5555
ช่างแม่ง : เข้าใจครับว่ายังไม่ตาย แต่เกียร์ออโต้เมติกของเรา อาจจะอายุขัยสั้น กว่าที่ควรจะเป็น
คนรักรถ : ห่ะ
ช่างแม่ง : แต่ปัจจุบันเครื่องมือมันก็พัฒนาไปมากแล้ว จึงสามารถที่จะ เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ ทั้งหมดได้
โดยไม่ต้องรื้อเกียร์ หรือ ใช้เทคนิคอื่นๆซึ่งใช้เวลาและยุ่งยาก ได้แล้ว
คนรักรถ : มันต้องทำยังไงถึงจะ เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ เต็มระบบได้
ช่างแม่ง : ต้องมีเครื่องมือพิเศษคือ เครื่องฟอกเกียร์ หรือ เครื่องฟรัชชิ่ง เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ เต็มระบบ
ไปอ่านตอนต่อไปจากลิงค์ด้านล่างเถอะ มันเขียนยาวแล้ว ต้องแบ่ง
เรื่องการฟอกเกียร์ เปลี่ยนน้ำมันเกียร์เต็มระบบ
สรุป ทำไมต้องเปลี่ยนน้ำมันเกียร์เต็มระบบ
1. ได้น้ำมันเกียร์ใหม่ในระบบได้เกือบ 100%
2. ได้ใช้ประสิทธิภาพน้ำมันเกียร์ใหม่เต็ม 100%
3. นำสิ่งสกปรกออกจากระบบเกียร์ได้เกือบทั้งหมด
4. ยืดอายุการใช้งานของเกียร์ออโต้เมติก
5. ขับขี่ ลื่น เร่งดีขึ้น เพราะ ประสิทธิภาพน้ำมันเกียร์ใหม่ 100%
6. ประหยัดน้ำมัน ลดการสูญเสียกำลังจากน้ำมันเกียร์เก่า ที่เสื่อมสภาพ