จบปัญหาเกียร์พัง ยังไม่ต้องเสียเงินหมื่น
เป็นการซ่อมเกียร์เฉพาะจุด ที่ใช้งบประมาณน้อย ราคาถูก ประหยัด และได้ผลดี ด้วยน้ำยาปรับสภาพเกียร์ RTG F01
หากเกียร์มีปัญหา แบบนี้
🔺เข้าเกียร์ตอนเช้าๆ หรือ จอดรถทิ้งไว้นานๆ แต่…
🔺ไม่ออกตัว ต้องรอสักพัก รอเครื่องร้อน
🔺 ต้องเร่งเครื่องเยอะถึงค่อยๆออกตัว
🔺 พอเร่งเยอะมันก็กระชากพรวด
🔺 เกียร์วืด กระตุก
🟢 แต่อาการทั้งหมดจะดีขึ้น หลังขับไปสักพัก หรือเครื่องร้อนแล้ว
หรือ อาการข้างเคียงอีกแบบนึง คือ เครื่องร้อนก็ยังมีอาการเหมือนเดิม
🔺เกียร์กระตุก กระชากตลอดเวลา
🔺จังหวะเปลี่ยนเกียร์กระตุก
🔺รอบสูงกว่าปกติ
อาการทั้งสองแบบโดยเฉพาะแบบแรก มีสาเหตุมาจากชุดโอริงเกียร์เสื่อมค่อนข้างชัดเจน ส่วนอาการแบบที่สองจะมีจำเลยร่วมหลายตัว และชุดโอริงเกียร์เสื่อม ก็ร่วมอยู่กับเขาด้วยเหมือนกัน ดังนั้นการใช้น้ำยาปรับสภาพเกียร์ RTG F01 นั้น อาการแบบแรกหวังผลได้เลย ส่วนอาการแบบที่สองก็ต้องมีลุ้นกันหน่อย แต่ทั้งหมดทั้งมวลก็ถูกกว่าไปรื้อเกียร์ ซ่อมเกียร์แน่นอน
เดี๋ยวจะขยายความเกี่ยวกับ โอริงเกียร์ ให้ฟังกัน…
สาเหตุที่ เกียร์พัง เกียร์มีปัญหา แบบนี้
😎 อาการจากย่อหน้าที่แล้ว ส่วนใหญ่มักเกิดจาก ชุดโอริงเกียร์ เสื่อมสภาพ หดตัว แข็ง ไม่คืนตัว ทำให้กักแรงดันน้ำมันเกียร์ในห้องเกียร์ไม่ได้ ระบบเกียร์เลยทำงานผิดปกติ (เพราะระบบเกียร์ออโต้ถือเป็นระบบไฮโดรลิคแบบนึงต้องอาศัยแรงดันของเหลวในการทำงาน) พอเครื่องร้อน โอริงเกียร์เหล่านั้นซึ่งมีส่วนผสมของยาง เมื่อโดนความร้อนมันขยายตัว และให้ตัวได้มากขึ้น ก็เลยทำให้ปิดร่องรอยต่างๆที่รั่วๆอยู่ในห้องเกียร์ได้สนิทมากขึ้น แรงดันในห้องเกียร์ก็จะกลับสู่สภาวะใกล้เคียงปกติ เกียร์ก็เลยกลับมาทำงานได้ดีขึ้นอีกครั้ง
กรณี โอริงเกียร์เสื่อมสภาพ ไม่มาก หลังจากสตาร์เครื่องยนต์สักแป๊บ ก็คืนตัวได้เร็ว เราก็จะรอไม่นาน เกียร์ก็กลับมาทำงานได้ แทบจะปกติเลย หรือมีอาการกระตุก วืดบ้างเล็กน้อย ก็ยังคงใช้งานได้ไม่กระทบกับชีวิตประจำวันเรานัก ช่วงนี้มักจะยังไม่เอะใจอะไร ก็จะปล่อยผ่านไป ซึ่งจริงๆแล้วช่วงนี้หากใส่น้ำยาจะได้ผลมากที่สุดและยืนระยะได้นานที่สุด
กรณี โอริงเกียร์เสื่อมสภาพ เยอะ ก็ต้องรอนานกว่ามันจะขยายตัว หลายนาทีถึงสิบนาทีขึ้นไป รถถึงจะเคลื่อนตัวได้ น้ำยาปรับสภาพเกียร์จะช่วยฟื้นฟูสภาพโอริงเกียร์ได้ แต่จะยืนระยะได้นานแค่ไหนก็ขึ้นกับความเสื่อมของโอริงเกียร์เดิม ซึ่งระยะเวลาจะสั้นกว่าตอนเป็นน้อยๆ
กรณีสุดท้าย โอริงเกียร์เสียหายหนักมากๆ อาจจะรอเป็นชั่วโมงเลยก็มีให้เห็นเหมือนกัน ไม่ต้องทำมาหากินแล้ว ถ้าในกรณีหลังสุด ต้องรื้อเกียร์หรือยกเกียร์เพื่อเปลี่ยนชุดโอริงเกียร์ทั้งหมดเท่านั้น น้ำยาฟื้นฟูสภาพเกียร์ก็ไม่สามารถจะช่วยอะไรได้แล้ว
ซึ่งอาการโอริงเกียร์เสื่อมนี้ จะเป็นมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งถ้าอาการเป็นไม่มาก น้ำยาปรับสภาพเกียร์ก็ยังช่วยได้ ถ้าเป็นหนักแล้วโอกาสรอดก็น้อยลงไปเรื่อยๆครับ
โอริงเกียร์ ทำหน้าที่อะไร
โอริงเกียร์ทำหน้าที่
– กักแรงดันน้ำมันเกียร์ให้อยู่ในห้องเกียร์ที่กำหนด
– เพื่อให้มีแรงดันน้ำมันเกียร์ไปกดชุดครัชที่หม้อครัช
– เพื่อกักแรงดันน้ำมันเกียร์ในทอร์คคอนเวอร์เตอร์ให้มีแรงปั่นสู่ชุดเกียร์
– อื่นๆอีก ที่ผมไม่รู้…555
เปรียบเทียบง่ายๆ โอริงเกียร์ก็เหมือนกับนิ้วมือเราที่เอาไปกดปิดที่ปากสายยางรดน้ำต้นไม้นี่แหละ มันก็จะเกิดแรงดันอยู่ภายในสายยาง ซึ่งแรงดันนั้นก็เปรียบได้กับ แรงดันในห้องเกียร์ที่จะทำให้มีแรงไปกดชุดครัช และกลไกต่างๆภายในเกียร์ให้ทำงานได้อย่างสมบูรณ์
แต่ถ้านิ้วเราปิดไม่สนิทน้ำก็จะออกมาจากสายยาง แรงดันตก น้ำไม่แรง ก็ทำให้ไม่มีแรงดันไปใช้งานนั่นเองครับ นี่คืออาการของโอริงเกียร์ที่เสื่อมสภาพ อาการก็อย่างที่บอกด้านบน และ ก็เป็นอย่างที่ทุกท่านเจอกันอยู่นี่แหละ
ป.ล.นี่เป็นการอธิบายง่ายๆ ไม่ได้อิงหลักการใดๆ นะครับ
📍เมื่อแรงดันน้ำมันเกียร์ไม่ได้ตามสเป็คเพราะเกิดการรั่วภายในระบบ สมมุติว่าแทนที่จะมีแรงดันในห้องเกียร์ 1 แต่ดันออกมาอยู่นอกห้องเกียร์ซะงั้น และเมื่อแรงดันในห้องเกียร์ไม่พอ ก็ไฟโชว์บ้าง กระตุกบ้าง รถไม่วิ่ง อะไรทำนองนี้ มันก็มีสาเหตุจากโอริงเกียร์ ที่เสื่อมสภาพนั่นแหละ ซึ่งส่วนใหญ่เกิดรถที่อายุการใช้งานเยอะๆแล้วทั้งนั้น
คือ เป็นหนึ่งในหลายสาเหตุนะ ไม่ได้บอกว่าทั้งหมดทั้งมวลที่เกียร์ทำงานผิดปกติเกิดจากสาเหตุนี้เท่านั้น !!!
เลยต้องรอเครื่องร้อน น้ำมันเกียร์ร้อนก่อน โอริงเกียร์มันถึงขยายตัว จนกักแรงดันได้ดีขึ้น
ทำให้กลับมาใช้งานได้อีก
ผลเสียอาการโอริงเกียร์เสื่อมสภาพ
ชุดโอริงเกียร์เสื่อมสภาพ มีผลเสียอะไรบ้าง
1 เกียร์ทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ สูญเสียกำลัง เพราะแรงดันในห้องเกียร์ตก ผลคือ เราต้องเหยียบคันเร่งมากกว่าเดิม สิ้นเปลืองน้ำมันมากขึ้น
2 ชุดแผ่นครัชสึกหรอ เพราะแรงดันเพื่อไปกดชุดครัชไม่พอ ทำให้กดได้ไม่สนิท ก็จะมีอาการสลิปหรือลื่น ช่วงจังหวะที่กดไม่สนิท มันก็จะสึกหรอเยอะ เหมือนเราเอากระดาษทรายถูกับแผ่นไม้ เรากดกระดาษทรายลงแผ่นไม้เบาๆใช่ไหมครับ ถึงจะขัดแผ่นไม้ได้
เพราะถ้ากดแน่นมากๆก็จะขัดไม่ได้ และแผ่นไม้จะเคลื่อนตามมือได้เลย
นั่นแหละครับถ้าชุดครัชกดหรือจับกันไม่สนิท ก็ไม่ต่างจากเราใช้กระดาษทรายขัดแผ่นไม้ นานวันเข้าครัชก็หมด ต้องรื้อเกียร์อย่างเดียวเพื่อเปลี่ยนแผ่นครัชเท่านั้น ผลกระทบต่อมาคือเศษสิ่งสกปรกจากแผ่นครัชก็อาจจะไปอุดทางเดินน้ำมันเกียร์ในสมองเกียร์ได้อีก อาจจะพาลอย่างอื่นพังไปด้วย เสียค่าอะไหล่เพิ่มเติมตอนซ่อมเกียร์อีกนะครับ
ขอบอกอีกอย่าง ไม่มีน้ำยาอะไรในโลกนี้ที่จะทำให้แผ่นครัชที่สึกหรอไปแล้วกลับมาใช้ได้ อย่าไปเชื่อโฆษณาเกินจริงพวกนั้น ผมเห็นหลายอันละ ขอเตือนด้วยความหวังดี
3 หม้อครัชอาจจะพัง ทำไมถึงพัง? ก็เพราะหลายครั้งเรารีบใช้งาน รีบออกตัวเลย ก็ต้องเร่งเครื่องไงครับ รถมันก็จะค่อยๆไป พอแรงดันมันถึงปุ๊บในจังหวะที่เราเร่งรอบสูงๆ เกียร์มันก็จะกระชากปั้ง ทันที ไอ้เจ้าแรงกระแทกนี้แหละ คือผลจากหม้อครัชมันกระแทกกัน พอบ่อยๆเข้าหม้อครัชอาจจะกลับบ้านเก่า หรือ หม้อครัชแตกได้ครับ ก็จะไปเป็นภาระค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมตอนโอเวอร์ฮอนหรือซ่อมเกียร์ครับ
เพราะการโอเวอร์ฮอนเกียร์โดยทั่วไป จะเปลี่ยนชุดโอริงเกียร์กับชุดแผ่นครัชเท่านั้น ถ้ามีอะไรเสียหายเพิ่มเติม ก็คือค่าใช้จ่ายเพิ่ม และอีกอย่างนีงที่ต้องคำนึงถึง ถ้ารถเราเป็นรุ่นแปลกๆ หาอะไหล่ไม่ได้นี่จะชวนปวดหัวมากกก ทั้งระยะเวลาการซ่อม,ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นมาและโอกาสจบงานแบบไร้กังวลก็ลดลงด้วย
โอริงเกียร์ ไม่ใช่ ปะเก็นอ่างเกียร์ หรือ ซีลเกียร์
ก่อนอื่นให้เข้าใจตรงกันก่อนว่า โอริงเกียร์ ไม่ใช่ ปะเก็นอ่างเกียร์ หรือ ซีลเกียร์ ซีลท้ายเกียร์ที่ชอบซึมหยดที่อยู่ภายนอกอย่างทีเข้าใจกันนะ เจ้าปะเก็นอ่างเกียร์ หรือ ยางอ่างเกียร์ (แล้วแต่ว่ายี่ห้อไหนเรียกอะไร) จะหน้าตาจะประมาณแบบรูปด้านล่างนี้
ส่วนรูปร่างและรูปทรงของปะเก็นอ่างเกียร์จะแตกต่างกันไปตามรถแต่ละรุ่นแต่ละยี่ห้อ บางยี่ห้อก็ใช้เหมือนกันเพราะว่าเกียร์รุ่นเดียวกัน
รู้ป่าว ผู้ผลิตเกียร์รายเดียวกันอาจจะขายให้รถหลายยี่ห้อได้ด้วย เช่น Aisin และ ZF เป็นต้น รถญี่ปุ่นยุโรปใช้ผู้ผลิตเกียร์รายเดียวกัน เผลอๆบางทีเกียร์รุ่นเดียวกันด้วยซ้ำ…
(รูปบน) ตำแหน่งปะเก็นอ่างเกียร์จะอยู่ที่วงสีแดงไว้ ที่น้ำมันเกียร์ซึมหยดเลอะพื้นประจำ
ไหนๆก็พูดมาขนาดนี้แล้ว ก็ให้ดูหน้าต่างอ่างเกียร์ไปเลยก็แล้วกัน มันอยู่ใต้ท้องรถนะที่วงแดงๆไว้นั้นแหละครับ หน้าที่หลักๆคือไว้ถ่ายน้ำมันเกียร์…และเป็นแท้งค์สำหรับเก็บน้ำมันเกียร์ส่วนนึงเท่านั้น
โอริงเกียร์ อยู่ที่ไหน ?
โอริงเกียร์ จะอยู่ ภายในเกียร์ ตามห้องเกียร์ต่างๆ เกียร์บางรุ่นมีเยอะ บางรุ่นมีน้อย แต่เกียร์ทุกรุ่น ทุกแบบ ต้องมีโอริงเกียร์เป็นส่วนประกอบในการกักแรงดันทั้งนั้น
วิธีแก้ไข อาการเกียร์พัง เกียร์จับช้า เกียร์วืด กระตุก มีอะไรบ้าง
คำถามแรก ทำไมไม่เปลี่ยนโอริงเกียร์ไปเลยละ ???
ประเด็นหลักที่ไม่ทำแบบนั้นเลย คือ
อย่างแรกมันต้องรื้อไส้เกียร์ออกมาทั้งหมด แน่นอนตามมาด้วยค่าใช้จ่ายที่สูง และระยะเวลาในการทำ 5-7 วัน
ประเด็นอยู่ตรงค่าใช้จ่ายสูงนี่แหละ และมันชอบพังตอนตังไม่มีไง ก็เลยต้องเสาะแสวงหาหนทางในการประหยัดค่าใช้จ่ายหรือให้เกียร์มันใช้งานได้ไปก่อน ขอเวลาเก็บเงินเก็บทองหน่อยเถอะ
ซึ่งถ้าเป็นเมื่อก่อน คือ ไม่มีทางเลือกราคาถูกเลย ต้องรื้อซ่อมเท่านั้น หันไปทางไหนก็หลักหมื่นอย่างเดียว ไม่ว่าจะเกียร์มือสอง หรือ ซ่อมเกียร์ โอเวอร์ฮอนเกียร์ ถ้ายังไม่มีเงินคือ ต้องจอดทิ้ง อย่างเดียว เครียดมากมาย เพราะจะใช้ทางไกลก็พะวงว่ามันจะไปเป็นอะไรขนาดที่วิ่งไม่ได้เลยไหม ยิ่งไม่ปลอดภัยหากเป็นผู้หญิงด้วย ไปเสียกลางค่ำกลางคืนไม่ดีเลย
ส่วนใครมีงบประมาณ มีตังค์เยอะ ไม่เดือดร้อน ก็แนะนำว่าไปโอเวอร์ฮอนเปลี่ยนโอริงใหม่นั่นแหละครับ จบเลย
แล้วก็ไม่ต้องอ่านบทความต่อไปให้เสียเวลาแล้วนะ
ทำไมถึงค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนชุดโอริงเกียร์สูง
เพราะว่ามันอยู่ข้างในเกียร์ แต่ต้องรื้อเกียร์ออกมาทั้งหมด ถึงจะเปลียนได้ครับ ดูรูปด้านล่างเป็นตัวอย่าง
เมื่อจะเปลี่ยนชุดโอริงเกียร์ได้ก็ต้องรื้อแบบในรูปเท่านั้น !!! ไม่ว่าจะมองรูปบน หรือ รูปด้านล่าง ก็ต้องเริ่มที่ สองหมื่นต้นๆ กับเวลาประมาณ 5-7 วัน อย่างหนีไม่พ้น…(นึกดิถ้าไม่มีเงินมันจะบ้าขนาดไหนหลักหมื่นนะเว้ย) อีกอย่าง ถ้ารถยุโรปกลางเก่ากลางใหม่ออกตัวก็ครึ่งแสนละครับ
คิดว่าน่าจะจบคำถาม ว่าทำไม ไม่เปลียนโอริงไปเลย เรียบร้อยนะครับ (ใช้เงินเยอะ ไม่มีตังค์)
ทางเลือกในการซ่อมเกียร์ ณ ปัจจุบัน (ปี 2566) มี 5 ทางเลือก
(จากประสบการณ์ผมคนเดียวเท่านั้นนะ)
- เปลี่ยนเกียร์ใหม่มือ 1 เบิกศูนย์ ค่าใช้จ่ายหลักแสน เจ็บแต่จบที่สุด สบายใจ พร้อมการรับประกัน ใครพร้อมเรื่องทุนทรัพย์และมีความทรงจำดีๆกับรถคันเดิม ก็จัดไปครับ เพราะรถบางรุ่นมือสองทั้งคันถูกกว่าค่าเกียร์เยอะมาก
- เปลี่ยนเกียร์มือสองจากเชียงกง ราคาแล้วแต่รุ่น ถ้ารถญี่ปุ่นปีเก่าๆ มีหลักหมื่นต้นๆ ถ้าเป็นรถรุ่นเดียวกับ Taxi ก็จะมีหลัก 7-8 พันให้เห็นอยู่เหมือนกัน 1-3 วันจบ ขึ้นอยู่ว่าหาเกียร์มาได้เร็วแค่ไหน ถ้าไม่นับเวลาหาเกียร์ ก็วันเดียวเสร็จแล้วหละ ส่วนการรับประกันก็ 7-15 วัน วัดดวงเอา เพราะไม่รู้ภายในว่าสภาพเป็นอย่างไร ถ้าคิดว่าใช้รถต่ออีกไม่นานก็น่าลุ้น
- โอเวอร์ฮอนเกียร์ หรือ ซ่อมเกียร์ แบบเปลี่ยนหมด เกียร์ 4 สปีด ค่าใช้จ่ายอยู่ประมาณ 18,000 – 25,000 บาท โดยประมาณ และใช้เวลาประมาณ 5-7 วันในการซ่อม (ถ้ารถยุโรปกลางเก่ากลางใหม่ก็เริ่มที่เกือบครึ่งแสนเป็นต้นไปนะ) แต่บางร้านมีรุ่นที่ประจำ ก็อาจจะทำแบบสลับเกียร์ที่เสร็จแล้วเลยก็ได้ แบบนั้นวันเดียวจบ การรับประกันส่วนใหญ่จะ 1 ปี จำกัดระยะทาง 20,000 กม แต่หลังๆมีหลายที่ไม่จำกัดระยะทางเหมือนกันแต่ราคาก็อีกแบบนึง ก็ต้องลองหาๆกันดู การซ่อมโอเวอร์ฮอนเกียร์โดยปกติเขาจะเปลี่ยน ชุดโอริงทั้งหมด และ ชุดครัชทั้งหมด เท่านั้นนะ อย่าเข้าใจว่าจะเปลี่ยนโซลินอย สมองเกียร์อะไรพวกนั้นละ คือถ้ามันเสียก็จะเป็นค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมไปอีก
- ซ่อมเกียร์แบบเฉพาะจุด รื้อเกียร์ทำเป็นบางส่วน เริ่มๆก็ 6-7,xxx บาทไป แล้วแต่ร้าน แล้วแต่อาการ ส่วนการรับประกันอันนี้ไม่แน่ไม่นอนครับ เพราะซ่อมแค่บางส่วน อู่จะรับประกันยาก เพราะอาการอาจจะเกี่ยวเนื่องกัน ซ่อมจุดนี้ เสียจุดนั้น ลูกค้าไม่เข้าใจ อู่ก็จะเข้าเนื้อ เดี๋ยวจะมาทะเลาะกันอีก ฉะนั้น การซ่อมแบบนี้ ไม่ค่อยจะพบเจอ เพราะงานไม่ค่อยจบ ยกเว้นรู้จักกันเป็นการส่วนตัวเข้าใจงาน แต่ส่วนตัวผมไม่แนะนำการซ่อมแบบนี้สำหรับอู่ที่ไม่ใช่เฉพาะทางจริงๆนะครับ เพราะเหตุผลที่บอกไปนั่นแหละ
- ใช้น้ำยาปรับสภาพเกียร์ F01 ค่าใช้จ่ายต่ำที่สุด ใช้เวลาสั้นที่สุด แต่ก็เฉพาะอาการเกียร์จับช้า กระตุก กระชาก วืด ตอนเครื่องเย็นๆ เท่านั้น พอร้อนแล้วดีขึ้น เพราะอาการเหล่านี้เกิดจากชุดโอริงเกียร์เสื่อม ก็จะใช้น้ำยาตัวนี้ได้ ค่าใช้จ่ายแค่พันกว่าบาท
น้ำยาปรับสภาพเกียร์ RTG F01 มันช่วยได้อย่างไร
น้ำยาปรับสภาพเกียร์ RTG F01 นี้ จะเข้าไปทำหน้าที่ฟื้นฟูชุดโอริงเกียร์ทั้งหมดให้ขยายตัวหรือให้ตัวได้มากขึ้น เพื่อให้สามารถกลับมากักแรงดัน ปิดช่องว่างระหว่างห้องเกียร์ และชิ้นส่วนต่างๆได้สนิทมากขึ้น เป็นผลทำให้แรงดันน้ำมันเกียร์ในแต่ละห้องเกียร์กลับมาใกล้เคียงเดิม ก็ทำให้เกียร์ใช้งานได้ดีขึ้นอีกครั้งนึง
น้ำยาปรับสภาพเกียร์ RTG F01 นี้ ทำได้แค่อย่างเดียวคือ ฟื้นฟูสภาพโอริงเกียร์เท่านั้น ไม่มีสารเคลือบ หรือ สารหล่อลื่นพิเศษใดๆ ครอบจักรวาลแบบยาผีบอก ฉะนั้นไม่เป็นต้องห่วงว่าจะมีคราบตกค้าง เหนียว อะไรแบบที่เจอๆกันมา เพราะมันไม่มีสารเคลือบ สารหล่อลื่นอะไรไงละ
น้ำยาปรับสภาพเกียร์ RTG F01 ทำให้ยังไม่ต้องไปซ่อมเกียร์ ช่วยให้เรามีเวลาเก็บเงิน เก็บทอง หาอู่ ได้อีกสักพัก ก่อนจะเข้าไปจัดชุดใหญ่
ใช่แล้วครับ น้ำยาปรับสภาพเกียร์ RTG F01 นั้น ไม่ได้ทำให้อาการนี้หายขาดถาวร เพราะอุปกรณ์ทุกอย่างย่อมมีการเสื่อมสภาพไปตามเวลา มันเป็นเพียงการยืดเวลาการซ่อมออกไปเท่านั้น ยืดไปได้ก็ตั้งแต่เป็นเดือนถึงเป็นปี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพของโอริงเกียร์เดิมว่าเสื่อมมาเยอะแค่ไหนแล้ว ถ้าเป็นไม่มากแล้วรีบมาใส่ก็มีโอกาศยืดเวลาออกไปได้เยอะกว่ารถที่เป็นเยอะๆแล้วนะครับ
น้ำยาปรับสภาพเกียร์ RTG F01 ค่าใช้จ่ายที่ถูกกว่าการไปซ่อมเกียร์มาก
เพราะเพียงใส่น้ำยาปรับสภาพเกียร์ RTG F01 ลงในช่องก้านวัดน้ำมันเกียร์เท่านั้น หลังจากนั้นก็รอน้ำยาก็จะทำหน้าที่ฟื้นฟูสภาพชุดโอริงเกียร์ ให้มีสภาพทีดีขึ้น หลังจากใส่ไป 3-5 วัน
ราคาเพียง 1,490 บาท เท่านั้น เมื่อเทียบกับราคาการซ่อมเกียร์ในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้แล้ว ไม่ต้องรีบเสียเงินหลายหมื่นเป็นเรื่องที่ดีที่สุดแล้ว
รีวิวจากผู้ใช้จริง ที่เกียร์พังจริง หายจริง
รีวิว CRV Gen 2 เกียร์พัง
.
รายละเอียด อาการเกียร์พัง
CRV Gen 2 เป็นเกียร์ออโตเมติก 4 จังหวะใช้น้ำมันเกียร์ ATF-DW1
อาการเกียร์พัง คือ เช้าๆเข้าเกียร์ D แล้วรถไม่ไป ออกตัวกระตุก เร่งรอบสูงแต่รถไม่ค่อยไป
แนวทางการแก้ไขอาการเกียร์พัง ลุกค้าตั้งใจจะไปโอเวอร์ฮอนเกียร์ แต่ตัดสินใจลองน้ำยาปรับสภาพเกียร์ RTG F01 ก่อน แม้ว่าจะมีเสียงคัดค้านจากคนรอบข้าง
ผลลัพธ์ หลังจากใส่น้ำยาปรับสภาพเกียร์ไปแล้ว สามารถออกตัวได้เลย และอาการรอบสูง เหยียบไม่ไปลดลงอย่างเห็นได้ชัด
รีวิว Camry ACV30 เกียร์พัง
รายละเอียด อาการเกียร์พัง
Camry ACV30 เป็นเกียร์ออโตเมติก 4 จังหวะใช้น้ำมันเกียร์ ATF
อาการเกียร์พัง คือ เข้าเกียร์แล้วเกียร์ D ไม่จับ ต้องรอนาน แต่เกียร์ R หรือเกียร์ถอยหลังใช้ได้ปกติ หากจะเดินหน้าต้องใช้เกียร์อื่นก่อนสักพัก แล้วค่อยตบไปเกียร์ D ถึงจะวิ่งได้ปกติ รอบวืด กระตุกบ้าง แต่พอเครื่องร้อนแล้ว ก็ไม่มีอาการอีกเลย
แนวทางการแก้ไขอาการเกียร์พัง
ไปหลายอู่แนะนำให้เปลียนเกียร์เชียงกง แต่รับประกันแค่ 14 วัน หรือ บางร้านใส่เสร็จวิ่งได้ ถือว่าจบการรับประกัน ลูกค้าเลยอยากประหยัดค่าใช้จ่ายและความเสี่ยงต่ำกว่าวัดดวงเกียร์เชียงกง เลยมาลองใส่ น้ำยาปรับสภาพเกียร์ RTG F01 ไป
ผลลัพธ์ หลังจากใส่น้ำยาปรับสภาพเกียร์ไปแล้วประมาณ 1-3 วัน อาการเกียร์พัง เข้าเกียร์ D แล้วต้องรอ ก็ดีขึ้นมาก ไม่ต้องเครียดเรื่องเกียร์ไปได้
สนใจสั่งซื้อน้ำยาปรับสภาพเกียร์ RTG F01
แอดไลน์ตามชื่อด้านล่างนี้ได้เลยครับ
@RTG-Auto