ผู้ใช้รถ “ส่วนใหญ่ไม่รู้” กับ การเปลี่ยนน้ำมันเกียร์

ผู้ใช้รถ “ส่วนใหญ่ไม่รู้” กับ การเปลี่ยนน้ำมันเกียร์

มันคือการ “ผสมน้ำมันใหม่ กับ เก่า” เข้าด้วยกัน ซึ่งของเก่ามีถึง 2 ใน 3 เลยทีเดียว

(ในระบบเกียร์มีน้ำมันเกียร์ 10 ลิตร แต่เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ ได้แค่ 3-4 ลิตร) ไม่ต่างอะไรจากซักไม้ถูพื้นในถังน้ำเก่าที่เราตักน้ำสกปรกส่วนนึงแล้วเติมน้ำใหม่เข้าไปผสม แล้วมันจะสะอาดไหม คงไม่ต้องสืบเอาไปถูบ้านให้ตาย ก็ไม่มีวันสะอาด เพราะทุกครั้งก็จะ “มีสิ่งสกปรกเข้ามาเพิ่มตลอด”

ดังนั้น น้ำในถังใบนี้ และ ไม้ถูพื้น รวมถึงพื้นบ้าน นี้จะไม่มีวันสะอาดเลย เดินไปมีแต่ กรวด ทราย เล็กๆ ปนอยู่ทำให้เกิดริ้วรอยบนพื้นไปเรื่อยๆและสกปรกวนไป

สภาพน้ำมันเกียร์ ก่อนเปลี่ยนน้ำมันเกียร์เต็มระบบ

ระบบเกียร์ออโตเมติก ก็เช่นกัน ใช้ น้ำมันเกียร์ซึ่งเป็นของเหลว เป็นตัวหลักในการทำงาน ผ่านในระบบเกียร์ ซึ่งมีโซลินอยวาล์ว โอริงทำหน้าที่ ปิด เปิด กักน้ำมันเกียร์ ให้มีแรงดันเพื่อให้รถขับเคลื่อนไปได้ ต้องผ่านสมองเกียร์ ฟันเฟืองต่างๆ แผ่นคลัช ช่องเล็กช่องน้อยมากมาย ก็จะมีเศษโลหะ สิ่งสกปรก ตะกอนต่างๆ ปนมาอยู่ในน้ำมันเกียร์ก็ทำให้ซีลเสื่อม หรือเกิดรอยเล็กๆๆๆๆจากเศษโลหะทำให้ไม่สามารถกักเก็บแรงดันได้เท่าเดิม

หรือ น้ำมันเกียร์เสื่อมสภาพก็จะเกิดอาการต่างๆตามมา เช่น

– ออกตัวช้า เกียร์จับช้า
– เกียร์เปลี่ยนมีกระตุก
– รอบสูงแต่รถไม่ค่อยไป

อาการสะสมมากๆเข้า ก็เกียร์พังในที่สุด

 

ส่ิงสกปรกที่กรองไว้ได้เมื่อผ่านเครื่องฟอกเกียร์

การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ทั้งระบบ ถือเป็น “สิ่งจำเป็น” เช่นเดียวกับการ เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง ซึ่งเราเปลี่ยนถ่ายทั้งหมด ไม่มีใครเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง “แค่ครึ่งเดียว” จริงไหม

สภาพน้ำมันเกียร์ หลังเปลี่ยนน้ำมันเกียร์เต็มระบบ

เพื่อ เป็นการดูแลรักษาให้เกียร์ออโต้แสนแพงให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน เปลี่ยนเกียร์ที่นุ่มนวล ต่อเนื่อง และช่วยประหยัดน้ำมันอีก ทำเถอะครับ เปลี่ยนอย่างน้อยให้ได้สัก 80% ของน้ำมันเกียร์ทั้งระบบ เมื่อก่อนอาจจะ ไม่จำเป็น เพราะเราไม่สามารถถ่ายน้ำมันเกียร์ออกทั้งหมดได้ ถ้าไม่รื้อเกียร์ออกมา ซึ่งเรื่องใหญ่มาก คือ เมื่อก่อนมันทำแบบนี้ไม่ได้

แต่สำหรับเวลานี้ ตอนนี้ สามารถทำได้แล้ว ฉะนั้น

ในเมื่อเราดูแลมันได้แล้ว ทำไมจะต้องไม่ทำด้วยละ

ฟอกเกียร์ เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ เต็มระบบ 

RTG Auto ตรงข้าม Big C สายไหม